“ซอนต๊อก” ตอนที่ 39 ในที่สุดด้วยความสามารถขององค์หญิงต๊อกมาน ก็ได้ทำให้ประชาชนพ้นวิกฤตเรื่องราคาเมล็ดพืชที่แพงลิบลิ่วลงไปได้ และยังทำให้มิชิลได้รู้ตัวด้วยว่า ไม่ควรที่จะประมาทต๊อกมานเลย
หลังจากที่ราคาเมล็ดพืชได้ลดต่ำลง จนขุนนางก็ต่างนั่งกันไม่ติด ปรึกษาหารือเรื่องนำออกเทขาย ยอมขาดทุนเล็กน้อยตอนนี้ ยังดีกว่าขาดทุนมหาศาลในการณ์หน้า และมีซิลก็ต้องการพบองค์หญิงต๊อกมานเพื่อเจรจาถึงปัญหาข้อนี้ แต่กลับเจอคำถามที่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจากปากของต๊อกมาน ผู้ที่นางเคยมองข้าม
ต๊อกมาน : “ท่านเซจู เป็นผู้นำที่มีความสามารถ แต่ทำไมหลังจากสิ้นพระเจ้าจินฮึง ทำไมบ้านเมืองกลับยิ่งเสื่อมถอยลง ปกติแล้วผู้นำที่เก่ง ประเทศชาติน่าจะเจริญ แต่ก็แปลกที่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะอะไร ท่านรู้สาเหตุรึเปล่า?”
คำถามที่ต๊อกมานถามด้วยใบหน้านิ่งเฉย ราวกับเด็กที่สงสัยจริงๆ นั้น ทำให้มีซิลถึงกับหน้าชา แม้จะยิ้มตอบที่มุมปากให้ตามเช่นเคย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง คำถามนี้ทำเอามีซิลนิ่งตรึง หน้าเครียดเลยทีเดียว
ยูชินได้เห็นหน้าของมีซิลก่อนเข้าพบต๊อกมานก็ถึงกับงงงวย จนต้องถามต๊อกมานว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคำตอบก็ทำตัวเขาเองอึ้งไปเช่นกัน ไม่คิดว่าต๊อกมานจะกล้าถามมีซิลในคำถามนี้
ในขณะเดียวกันพีดามก็เดินทางมาหายอมจง และได้เจอกับชุนชู ซึ่งชุนชูนั้นยังมิวายเลิกกลัวความเหี้ยมของพีดามเมื่อพบกันครั้งแรกนั้น
ต๊อกมานเรียกประชุมสภา เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาเมล็ดพืชที่ผ่านมา โดยมีการประกาศจำนวนกระสอบที่แต่ละขุนนางได้ซื้อไปด้วย เล่นทำเอาอึ้งกันไปตามๆ กัน ฮาจงเบี่ยงประเด็นด้วยการชวนทะเลาะกับไต้เท้ายงชุน ทำให้การประชุมสภาในครั้งนี้ต้องล่มไป
จากไหวพริบ ความเฉลียวฉลาดในเรื่องการค้าของต๊อกมาน ทำให้งานในคราวนี้ได้กำไรมามากมาย ต๊อกมานจึงได้มาร่างงานชิ้นต่อไปที่จะทำโดยใช้ประโยชน์จากกำไรที่ได้มา โดยได้เชิญท่านยูชินและพีดามมาปรึกษาหารือ แต่กระนั้นก็ดูเหมือนกันว่า ในเวลาที่ ต๊อกมานและยูชินอยู่ด้วยกัน มันทำให้พีดามรู้สึกเหมือนตัวเขาเองเป็นเพียงส่วนเกิน ภาพของชายหญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา ช่างดูเหมาะสมกัน จนเขาไม่รู้จะแทรกตัวเข้าไปอย่างไร
มีซิลได้ตระหนักในสิ่งที่ต๊อกมานถามไว้ นางจึงเดินทางไปห้องเก็บเอกสารของราชสำนักแต่เช้า แต่แล้วก็ต้องแปลกใจที่พบองค์หญิงบรรทมบนกองหนังสือ ภาพเช่นนี้ทำให้เดาได้เลยว่า องค์หญิงคงทรงงานที่นี่ทั้งคืน
พีดามและชุนชูเดินโต้เถียงกันตามเข้ามา ก็ต้องตกใจที่เจอกับมีซิลที่นี่ เสียงดังทำให้ต๊อกมานที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับประหลาดใจ ทำไมทุกคนถึงมารวมตัวกันที่ห้องสมุดนี้ได้
พีดามพยายามรายงานความสามารถขององค์ชายชุนชูให้มีซิลและองค์หญิงได้รับทราบ ในฐานะอาจารย์ พีดามได้ยอมรับว่าชุนชูเองก็มีส่วนช่วยสอนตัวเขาเองเหมือนกันในเรื่องของการตลาดกับการแก้ปัญหาราคาเมล็ดพันธุ์พืชที่ผ่านมา ทำให้ต๊อกมานรู้สึกดีใจที่ไม่คิดว่า ชุนชูจะมีความสนใจด้วย แต่ชุนชูก็รีบปฏิเสธทันควัน ด้วยเกรงจะทำให้ภาพลักษณ์ที่อุตส่าห์สร้างให้ทุกคนเข้าใจว่า อ่อนแอ และเสเพลนั้นเสียไป
ต๊อกมานเดินทางไปยังโรงหลอมเหล็ก เพื่อดำเนินการตามแผนที่ตัวเองวางไว้ คือ หยุดการผลิตอาวุธก่อน และนำเหล็กกล้าชั้นดีนี้มาผลิตเครื่องมือการเกษตรแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมองเห็นถึงความสำคัญ จุดนี้ทำให้พีดามทึ่งในสติปัญญาของต๊อกมานเพิ่มพูนขึ้นไปอีก
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝัน ชาวบ้านในเมืองอังคัง เขตการปกครองของฮาจง ได้รวมตัวประท้วงเอาเครื่องมือการเกษตรมาเป็นอาวุธเพื่อบุกเข้าไปพบเจ้าเมือง เนื่องจากปัญหาแมลงทำลายพืชผล ทำให้ปีนี้เก็บเกี่ยวได้น้อยกว่าเดิมมาก แต่ทางการก็ไม่ยอมลดส่วย ยังคงเก็บ 250 กระสอบเท่าเดิม โดยเป็นแผนของฮาจงด้วย ที่ต้องการต่อกรกับองค์หญิง หลังจากทำให้ตัวเขาและขุนนางคนอื่นต้องเจ็บตัวไปตามๆ กันจากการขาดทุนเรื่องการกักตุนเมล็ดพันธุ์พืชครั้งที่แล้ว
ต๊อกมานจะเดินทางไปที่เมืองอังคัง เพื่อแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ในขณะที่มเหสีมายาทรงเป็นห่วงมาก แต่ฝ่าบาทกลับบอกว่าเชื่อใจต๊อกมาน และปล่อยให้นางจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ต๊อกมานเดินทางไปเมืองอังคัง เพื่อพูดคุยถึงปัญหานี้ และได้พบกับผู้นำหมู่บ้านที่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ ผู้นำหมู่บ้านได้รายงานให้องค์หญิงทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน พร้อมบอกว่าทราบว่าองค์หญิงมีหนทางจะช่วย จึงเดินทางเสี่ยงชีวิตมาขอความช่วยเหลือ
องค์หญิงให้สัญญากับผู้นำหมู่บ้านจะมอบผลผลิตทั้งหมด 250 กระสอบคืนให้กับชาวบ้าน และยังให้ที่ดินทำกิน พร้อมเครื่องมือการเกษตรจากเหล็กกล้าชั้นดีให้ด้วย แต่จะมีการเก็บ ภาษี แต่ถ้าผลผลิตดี และสามารถพลิกฟื้นที่ดินได้ ก็ไม่ต้องส่งส่วย และจะมอบที่ดินพื้นนั้นให้ชาวบ้านถือกรรมสิทธิ์เลย
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ยูชิน และอัลชอนไม่เห็นด้วยที่องค์หญิงไม่ทำโทษผู้กระทำผิด จึงได้กราบทูลให้องค์หญิงจัดการเรื่องนี้ด้วย
องค์หญิงกลับมาพบผู้นำหมู่บ้านอีกครั้ง แต่นอกจากจะไม่ทำโทษ ยังมอบที่ดินและเครื่องมือการเกษตรให้อีก พร้อมกับถามกับผู้นำหมู่บ้านว่า “ถ้าข้าปล่อยตัวท่าน ท่านจะกลับไปบอกชาวบ้านให้ตั้งใจเพาะปลูก และพลิกฟื้นที่ดินหรือไม่ ” ซึ่งทำให้ยูชินกับอัลชอนต้องอึ้งไปตามกัน
เหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ต๊อกมานต้องการ หลังจากที่กลับมาถึงวัง ก็ได้รับข่าวร้าย คือ ผู้นำหมู่บ้านได้พาชาวบ้านหนีออกจากเมืองไปพร้อมกับอุปกรณ์การเกษตรที่องค์หญิงประทานให้ เรื่องนี้ทำให้ยูชินรังโกรธมาก พร้อมกับเรื่องโพจงและซอกพุมมาเพื่อให้ลูกน้องของทั้งสอง ออกไปจับชาวบ้านและผู้นำกลับมาให้หมด!!
เรื่องนี้ทำให้มีซิล รู้สึกว่าตัวเองเป็นต่อในเรื่องการปกครอง องค์หญิงก็เปรียบเสมือนนักปกครองฝึกหัดที่เพิ่งหัดทำงาน และได้กล่าวกับองค์หญิงว่า
“ราษฎรที่ขาดความรู้ก็เหมือนเด็กที่ชอบขอนู่นขอนี่..มีแต่สร้างปัญหา
หม่อมฉันถึงได้บอกว่าน่ากลัว แต่องค์หญิงกลับยังเอาสิ่งของให้พวกเขา
การลงโทษต้องลงโทษอย่างเฉียบขาด และรวดเร็ว และการให้รางวัลต้องให้ทีละเล็กละน้อย”
แต่สิ่งที่มีซิลพูดกับต๊อกมาน ไม่ได้ทำให้ต๊อกมานรู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด อีกทั้งยังตอบกลับไปว่า
“การที่ชาวบ้านลุกขึ้นมา ต่อสู้ ไม่ใช่การต่อต้าน แต่เป็นการดิ้นรนเพื่อปากท้อง ท่านดีแต่ทำให้ชาวบ้านหมดหนทาง ไม่มีที่จะไป การที่ท่านทำเช่นนี้ก็เพราะท่านไม่คิดว่าเป็นเจ้าของชิลลา จึงไม่เห็นประชาชนเป็นลูกหลาน แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น ข้าต้องการให้พวกเขามีอิสรภาพเป็นของตนเอง พึ่งพาตนเองได้ ข้าจึงไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมบ้านเมืองถึงไม่เจริญเลย เพราะท่านไม่คิดว่าเป็นเจ้าของชิลลา จึงไม่เห็นประชาชนเป็นลูกหลาน บ้านเมืองถึงไม่เจริญ ก็เพราะ…ท่าน เป็นเพราะ..ท่าน"
ก่อนจะเดินสิ้นสุดการสนทนา ต๊อกมานยังหันกลับมาบอกกับมีซิลอีกว่า
“การลงโทษอย่างเฉียบขาด และการให้รางวัลทีละเล็กละน้อย ข้าก็เห็นด้วย และต่อไปนี้ ข้าจะทำในสิ่งที่ใครก็คาดคิดไม่ถึง!!! “
มีซิล ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้อีก ดูเหมือนว่าเวลานี้ใบหน้าของนางจะชาซะจนเหมือนถูกตบ เมื่อถูกนักปกครองรุ่นหลังพูดจี้จุดให้ได้ฉุกคิดเช่นนี้
องค์หญิงเดินทางกลับมายังหมู่บ้านอังคังอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้นางกลับมาด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง ที่ชาวบ้านไม่เห็นความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองได้ทุ่มเทให้
เมื่อเผชิญหน้ากับชาวบ้านที่เป็นเหมือนลูกหลานขององค์หญิง ต๊อกมานก็ได้สอบสวนพวกชาวบ้านด้วยความเจ็บปวด
องค์หญิง : “ทำไมพวกท่านถึงหนี ข้าอุตส่าห์มอบเครื่องมือที่ผลิตจากเหล็กกล้าอย่างดีให้ไปแล้ว”
ชาวบ้าน : “พวกเราไม่รู้หรอกว่าเหล็กอันไหนดีไม่ดี ยังไงองค์หญิงก็หวังผลประโยชน์ จากพวกเราอยู่ดี ไม่ได้ต่างอะไรกับทางการ”
องค์หญิง : “ทำไมพวกเจ้าไม่เข้าใจ สิ่งที่ข้าทำก็เพื่อไม่ให้พวกเจ้าต้องตกอยู่ภายใต้การกดขี่ของขุนนาง ข้า…อยากให้พวกเจ้าได้อิสรภาพ หรือพวกเจ้าชอบความลำบากแบบนั้น”
เหตุการณ์นี้ทำให้องค์หญิงตระหนักถึงคำพูดของมิชิลที่ว่า “การลงโทษ ต้องลงโทษอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด ในขณะที่การให้รางวัล ก็ต้องให้ทีละเล็กละน้อย” และองค์หญิงจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ติดตามได้ใน “ซอนต๊อก” ตอนที่ 40 นะคะ
ตัวอย่าง “ซอนต๊อก” ตอนที่ 40
1 comments:
รักพีดัมมากเลย
แสดงความคิดเห็น